การตัดสินใจในการเลี้ยงม้าตัวหนึ่งตามหลักสวัสดิภาพสัตว์มีหลากหลายอย่างที่เจ้าของม้าจะต้องทำความเข้าใจ เพื่อนำไปปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม เพราะเมื่อเป็นเจ้าของม้าตัวหนึ่งนั่นก็หมายรวมถึงความเป็นเจ้าของชีวิตของม้าตัวนั้นด้วย ในหลายสถานการณ์การการุณยฆาตก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในฐานะทางเลือกที่มีมนุษยธรรม เพื่อให้ม้าจากไปอย่างสงบและทรมานน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเมื่อถึงเวลานั้นหมอรักษาม้าก็เป็นคนที่ต้องเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากครับ

พิจารณาสถานการณ์อย่างเหมาะสม

ในฐานะหมอม้าอาการเจ็บป่วยของม้าเป็นเรื่องที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในบางครั้งเราก็จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่การการุณยฆาตกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สมเหตุสมผลมากที่สุด สถานการณ์ที่พบได้บ่อยนั้นได้แก่ ม้าป่วยเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ และมีความรุนแรงของโรคมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถแพร่กระจายให้กับม้าตัวอื่นๆ ได้ หรือม้าแสดงอาการเจ็บอย่างรุนแรงและเรื้อรังมีอาการต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรืออาการเสียดท้องรุนแรงที่ไม่สามารถรักษาทางการให้ยาหรือการผ่าตัดได้ หรือลูกม้าที่มีความผิดปกติที่รุนแรงแต่กำเนิดจนไม่สามารถใช้ชีวิตหรือเจริญเติบโตได้โดยปราศจากความทรมาน หรือม้าอายุมากที่มีสภาพร่างกายทรุดโทรม อ่อนแอลง จนไม่สามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากความทรมานได้ หรือม้าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เช่นม้าขาหักรุนแรงเนื่องจากบาดเจ็บจากการใช้งาน หรืออุบัติเหตุ เป็นต้น

ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างที่พบได้บ่อยเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วอาการเจ็บป่วยของม้าในแต่ละกรณีจะมีความจำเพาะแตกต่างกันไป ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะใกล้เคียงกันมากเพียงใดก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่ม้าขาหัก ลักษณะนิสัยของม้ามีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อผลการรักษา ม้าตัวที่ไม่ตื่นตกใจง่าย ไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บเพิ่ม ก็มักจะมีโอกาสหายมากกว่าม้าที่ตื่นตกใจง่ายและไม่อยู่นิ่งเป็นต้น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าม้าแต่ละตัวจะสามารถทนต่อความเจ็บปวดได้แตกต่างกัน ให้ความร่วมมือต่างกัน เพราะมีพื้นฐานนิสัยและถูกเลี้ยงดูมาแตกต่างกัน

การการุณยฆาตยังคงเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนต่อสังคมไทย และเป็นสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อจิตใจของเจ้าของม้าอย่างรุนแรง ในฐานะสัตวแพทย์การช่วยให้เจ้าของม้าทำความเข้าใจสถานการณ์ของม้าจึงมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยแบบฉุกเฉินหรือแบบเรื้อรังก็ตาม การจะให้คำตอบอย่างเหมาะสมกับคำถามจากเจ้าของม้าก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก หมอจึงจำเป็นที่จะต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนเมื่อต้องตัดสินใจให้คำแนะนำในการทำการุณยฆาต

Euthanasia guidelines

สมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคม้าประเทศสหรัฐอเมริกา (The American Association of Equine Practitioners; AAEP) มี Euthanasia guidelines (แนวทางปฏิบัติสำหรับการการุณยฆาต) ที่ช่วยให้สัตวแพทย์นำไปปรับใช้และสื่อสารกับเจ้าของม้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางปฏิบัตินี้วางอยู่บนพื้นฐานทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ได้พิจารณาถึงมูลค่าของตัวม้ารวมถึงปัจจัยด้านการเงินของเจ้าของม้าเข้ามาเกี่ยวข้อง มีจุดประสงค์หลักเพื่อหลีกเลี่ยงหรือยุติความทุกข์ทรมานที่ไม่มีจุดสิ้นสุดที่ไม่อาจรักษาหายได้ที่เกิดขึ้นกับตัวม้าเท่านั้น โดยการการุณยฆาตจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในกรณีดังต่อไปนี้ครับ

  • ม้าไม่ควรจะต้องทนรับความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง โดยที่สัตวแพทย์ไม่สามารถจัดการช่วยเหลือใดๆ ได้เลย ไม่ว่าอาการเจ็บป่วยนั้นจะเป็นการเจ็บป่วยแบบเรื้อรังหรือแบบรุนแรงฉับพลันก็ตาม
  • ม้าไม่ควรต้องทนรับการรักษาต่อเนื่องหากไม่มีโอกาสรอดชีวิตจากอาการเจ็บป่วย ไม่ว่าการรักษานั้นจะเป็นการรักษาทางยาหรือการผ่าตัดก็ตาม
  • ม้าไม่ควรจะต้องทนทรมานหากมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถจัดการได้ และก่อให้เกิดอันตรายกับตัวม้าเองหรือผู้ใกล้ชิด
  • ม้าไม่สามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยปราศจากความเจ็บปวดได้ หากไม่ได้รับยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอย่างต่อเนื่อง
  • ม้าไม่ควรจะต้องถูกขังคอกตลอดชีวิตที่เหลือ เพียงเพื่อป้องกันหรือลดอาการเจ็บปวดโดยที่สัตวแพทย์ไม่สามารถจัดการช่วยเหลือใดๆ ได้เลย

บทบาทของสัตวแพทย์

ในการให้คำแนะนำการการุณยฆาต หมอม้ามีหน้าที่ให้ข้อมูลทางด้านการแพทย์เพื่อช่วยให้เจ้าของม้าเข้าใจอาการของม้าในปัจจุบัน และเข้าใจการพยากรณ์โรคในอนาคตด้วยว่าจะเป็นอย่างไร แต่ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าเราไม่ใช่ผู้ที่จะตัดสินใจแทนเจ้าของม้าได้ สุดท้ายแล้วเจ้าของม้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจด้วยตัวเอง ในกรณีที่เจ้าของม้ามีข้อสงสัยในเรื่องการพยากรณ์โรคหรือทางเลือกในการรักษา ละไม่สามารถตัดสินใจได้ เจ้าของม้าก็มีสิทธิ์ที่จะขอความเห็นจากหมอท่านอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ เพราะการตัดสินใจให้ม้าที่รักจากไปเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เจ้าของม้าจำเป็นจะต้องมั่นใจและเข้าใจจริงๆ ว่ากำลังตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“ถ้าเป็นม้าของหมอ หมอจะตัดสินใจอย่างไร” หมอม้ามักจะถูกตั้งคำถามแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้เราตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเลือกตอบหรือไม่ตอบคำถามนี้ให้กับเจ้าของม้าก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอแต่ละคน แต่หากเราเลือกที่จะตอบเราก็ควรจะต้องชี้แจงให้เจ้าของม้าเข้าใจว่าเราตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานที่แตกต่างกับเจ้าของม้า เพราะหมอไม่ได้ผูกพันธ์กับม้าเท่ากับที่เจ้าของผูกพันธ์ ไม่ได้เข้าใจพื้นฐานทางด้านอารมณ์หรือพื้นฐานทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับที่เจ้าของม้าเข้าใจ เราจึงไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมเช่นเดียวกับที่เจ้าของตัดสินใจเองอย่างแน่นอน สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือให้คำแนะนำโดยอยู่บนพื้นฐานทางการแพทย์เท่านั้น

การดูแลและทำความเข้าใจกับความโศกเศร้าของเจ้าของม้าก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หมอม้าจำเป็นจะต้องคำนึงถึงเช่นเดียวกับการดูแลครอบครัวของผู้ป่วยระยะสุดท้ายในทางการแพทย์ครับ เพราะสำหรับหลายๆ คน ม้าก็ไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงแต่เปรียบเหมือนสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งนั่นเอง เรื่องที่ผมแนะนำให้ศึกษาอ่านเพิ่มเติมเพื่อให้เรารับมือกับเรื่องนี้ได้ดีขึ้นก็คือ “5 stages of Grief” ที่ปัจจุบันมีการเผยแพร่กันอย่างหลากหลายครับ 

การวางแผน และการเตรียมความพร้อม

การเตรียมความพร้อมในกรณีที่เจ้าของตัดสินใจทำการุณยฆาต เป็นเรื่องที่สำคัญที่หมอม้าจำเป็นจะต้องวางแผนเตรียมการซักซ้อมล่วงหน้าไว้ก่อนเสมอ เพราะหลายครั้งการการุณยฆาตก็เกิดขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน การเลือกเวลา สถานที่ รวมถึงวิธีในการการุณยฆาตนั้นจะต้องคิดเผื่อรวมถึงการจัดการซากม้าด้วย โดยการจัดการควรอยู่บนพื้นฐานของความสะดวกของม้า เจ้าของม้า ผู้เกี่ยวข้อง และตัวหมอเองด้วย ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่ฝากเลี้ยงม้าในคอกรับฝาก ผู้จัดการคอกก็เป็นผู้ที่จะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผน ในกรณีที่มีการขนย้ายซากม้าผู้ขนย้ายก็จะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนด้วยเป็นต้น ก่อนการปฏิบัติงานจริงการอธิบายขั้นตอนต่างๆ ในการทำการุณยฆาตกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

การกำจัดซากหรือเคลื่อนย้ายซากเป็นอีกประเด็นที่เราต้องคิดล่วงหน้า ว่าจะใช้การฝัง เผา หรือบริจาคเพื่อการศึกษา และจะมีการขนย้ายไปยังสถานที่นั้นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นหากเจ้าของม้าตัดสินใจฝังม้าภายในบริเวณคอกม้าของตนเอง หากม้ายังสามารถเดินได้การจูงม้าเดินไปบริเวณดังกล่าวก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม หรือในกรณีที่ต้องมีการขนย้ายซาก การจูงม้าเดินขึ้นรถแล้วการุณยฆาตบนรถขนม้าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ขั้นตอนการทำงานราบรื่นขึ้น โดยก่อนการเคลื่อนย้ายม้าที่เจ็บรุนแรงอาจพิจารณาให้ยาแก้ปวดในโดสที่สูงหรือฉีดยาชาระงับปวดเฉพาะจุดเพื่อให้ม้ารู้สึกสบายมากที่สุดก่อนวาระสุดท้าย

การจากไปอย่างสงบ

การการุณยฆาตในม้าก็ไม่ต่างจากสัตว์ประเภทอื่น มีเป้าประสงค์เพื่อให้ม้าจากไปอย่างสงบ และปราศจากความเจ็บปวด โดยทั่วไปการการุณยฆาตม้าในประเทศไทยมักจะทำด้วยการฉีดยาสลบที่สามารถหยุดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง หยุดการเต้นของตัวใจ และหยุดการหายใจ ได้อย่างรวดเร็ว โดยม้าแต่ละตัวจะตอบสนองแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะหลับและนอนลงอย่างสงบ อาจจะมีการหายใจเข้า 1-2 ครั้ง และผ่อนลมหายใจในที่สุด บางตัวอาจจะมีการหายใจสั้นๆ เป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งนาที บางตัวอาจมีการขยับขาอยู่ได้เล็กน้อยถึงแม้ว่าหัวใจจะหยุดเต้นแล้วก็ตามซึ่งเป็นการรีเฟล็กซ์สามารถพบได้ การอธิบายสิ่งที่อาจจะพบได้เหล่านี้ให้กับเจ้าของม้าจะช่วยให้เจ้าของม้าเข้าใจและเตรียมใจล่วงหน้าได้ดีขึ้น

ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด จริงอยู่ที่ว่าเจ้าของม้าทุกคนล้วนอยากให้ม้าใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีมีความสุขจวบจนสิ้นอายุขัยและจากไปอย่างสงบ แต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าเราจะสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดความเจ็บป่วยได้ แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงมันได้ทั้งหมด การพูดคุยกับเจ้าของม้าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้มีสถานการณ์ฉุกเฉินใดๆ เพื่อวางแผนรับมือกับการสูญเสียหรือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจะช่วยให้เรามีสติและรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาจริงๆ ได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย เหมือนกับการวางแผนเกษียณที่หากเราไม่ได้วางแผนตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มทำงาน กว่าจะรู้ตัวเราก็อาจจะมีเวลาเหลือไม่มากพอที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับบั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุขจวบจนสิ้นอายุขัยได้ครับ

ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารรายเดือนสำหรับสัตวแพทย์ (Veterinary Practitioner News; VPN) ฉบับที่ 228 เดือนกันยายน 2564

Message us